วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เกี่ยวกับ Battery ของ Dell Latitude D630 ตอนที่ 2


วันนี้จะทอลองให้เครื่องใช้แบตเอตรี่จนเหลือ 10% แล้วเข้าสู่โหมด Hibertate หลัวจากนั้นบูทต์เครื่องขึ้นมาแล้วเสียบปลั๊กชาร์ตแบตเตอรี่อีกครั้ง เรื่องอุปกรณ์ต่อพ่วงก็ยังเหมือนกับในตอนแรก
10:10 ถอดปลั๊ก
11:12 เหลือ 65% ใช้ได้อีก 1:30 ชม. (ตามที่เครื่องบอก)
12:03 เหลือ 37% ใช้ได้อีก 0:57 ชม. (ตามที่เครื่องบอก)
12:36 เหลือ 15% ใช้ได้อีก 0:24 ชม. (ตามที่เครื่องบอก)
12:43 เหลือ 10% เข้าสู่ Mode Hibernate
รวมเวลาใช้งาน 2:53 ชม.
12:45 เสียบปลั๊กชาร์ตแบต แล้วเปิดเครื่องกลับเข้ามา (เวลาเริ่มชาร์ตแบต)
14:44 ชาร์ตได้ 52%
15:31 ชาร์ตได้ 69%
16:10 ชาร์ตได้ 82%
17:42 ชาร์ตได้ 97%
ใช้เวลา 3:57 ชม.
เอาแค่นี้แล้วกัน

เมลล์ไปถาม Support ของ Dell เค้าตอบกลับมาว่าควรให้แบตเตอรี่เหลืออยู่ 10% แล้วปิดเครื่องชาร์ต ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับที่ตอบกลับมาเร็วมาก

แล้วผมจะลองทำแล้วมารายงานผลในตอนที่ 3 แล้วกันครับ

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เกี่ยวกับ Battery ของ Dell Latitude D630

ซื้อเครื่อง Dell มาใหม่รุ่นก็ตามหัวข้อนั่นแหละ (ได้รับเครื่องเมื่อ 25 เมษายน 2551) แต่รู้สึกแปลกๆ เกี่ยวกับระยะเวลาในการชาร์ตแบตเตอร์รี่ เพราะรู่สึกว่ามันใช้เวลาหลายชั่วโมงมากในการชาร์ต
รายละเอียดเครื่องกับอุปกรณ์ต่อพ่วงในขณะใช้งาน
CPU: Core 2 Duo 2.2 Gh
Ram: 4GB
HDD: 7200 rpm
Batter: 9 Cell
Hard disk ภายนอก: Western Digital Essential 160 GB (ต่อแบบภายนอก)

การทดลองครั้งที่ 1
11:06 ถอดปลั๊ก (Battery แจ้งว่าใช้ได้อีก 2:50 ชม.)
ใช้ไปจนไฟหมดแล้ว (0%) เครื่องดับไปประมาณช่วงเที่ยงครึ่งถึงบ่ายโมงกว่า (พอดีลงไปกินข้าวเลยไม่แน่ใจว่าดับไปตอนกี่โมง)
เริ่มชาร์ตตอน 13.50
15:21 ชาร์ตได้ 23%
15:47 (ตอนเขียนบล็อก) ชาร์ตได้ 30%
จะรอดูว่ามันกี่ชั่วโมงถึงจะเต็ม....เฮ้อกลุ้ม !! " . "

17:27 70%
18:20 81%
ปิดเครื่องก่อน เลิกงานแล้วจะกลับไปช็าตต่อที่บ้าน
20:56 เริ่มชาร์ตอีกครั้ง
22:20 97%
22:30 100%
รวมเวลาการชาร์ตและใช้งานไปพร้อมกันทั้งหมด 8 ชั่วโมง 4 นาที
นี่ยังเป็นเวลาที่ใช้ในการชาร์ตปกติไหม????


ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะทำอีกรอบ

Technorati Tags: , , , ,

วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ต่อนี้ไปจะใช้เป็น Daily Blog

ไหนๆ ก็ไม่ได้ใช้ Blog นี้อย่างเป็นทางการ อีกทั้งยังไม่ค่อยมีเวลาไปอัปเดท สมอลเลินดอทเน็ตอีก ก็ขอใช้ที่นี่ Daily Blog เอาไว้เตือนความจำตัวเองก็แล้วกัน...

จึงเรียนมาเพื่อทราบ (กันทุกคน)....

วันอาทิตย์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2551

เรื่อง TPBS ทุเรศสิ้นดีเลย

ได้ข่าวเกียวกับเรื่องนักงาน TITV กับ TPBS ที่จะว่าจ้างพนักงานจาก TITV ทั้งหมดแปดร้อยกว่าคนเนี่ย มันเรื่องอะไรกันนักหนา นี่ตอนออกจากชินคอร์ปก็ได้ค่าชดเชยกันทุกคนแถมได้ทำงานกับ TITV (โดยไม่ต้องแข่งกับใคร) มาอีกตั้งปี แล้วแถมตอนนี้กรมประชาสัมพันธ์ก็ต้องจ่าค่าชดเชยด้วย แล้วนี่ยังจะมาทำงานต่อใน TPBS อีก โอ้พระเจ้า นี่มันอะไรกัน ทำไมมันถึงมีอภิสิทธิ์ขนาดนี้นะไอ้ทีมงาน TV ทุเรศเนี่ย อุ้มกันเข้าไป (ทีพนักงงานรัฐวิสาหกิจอย่าง รสพ.ไม่เห็นช่วยเหลืออะไร, หรือตอนที่ปิด 56 ไฟแนนท์ก็ไม่เห็นเค้าจะได้อภิสิทธิ์หรือการโอบอุ้มอะไรจากภาครัฐเลย) เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้จริงๆ ไอ้พนักงานเลวๆ เรียกร้องแต่เรื่องของตัวเอง โลภไม่มีที่สิ้นสุด
ขอให้ฟ้าดินลงโทษ ขอให้กรรมตามทัน สาธุ!!!

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2551

การติดตั้งฟอนต์ SHX ให้ MicroStation

เมื่อต้องการนำฟอนต์ชนิด SHX มาใช้ใน MicroStation ให้ทำดังนี้

1. ไปที่ เมนู Workspace > Configuration...

2. ที่ไดอะล็อกบ็อก Configuration ส่วนของ Category คลิกเลือก All (By Level)











3. ที่ส่วน View/modify all configuration variables.
ให้เลือกที่ MS_DWGFONTPATH (หากไม่พบให้เลื่อนไปทางด้านล่างหรือคลิกที่ปุ่ม New เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่)
4.ที่ไดอะล็อกบ็อก Select Dir for AutoCAD SHX Font Directory
เลือก Drives: และโฟลเดอร์ที่เก็บฟอนต์ SHX ไว้




















5. คลิก OK เพื่อกลับไปที่ไดอะล็อกบ็อก Configuration
6. คลิก OK อีกครั้งเพื่อปิดไดอะล็อกบ็อก Configuration
7.
ให้ปิดโปรแกรม MicroStation แล้วทำการเปิดขึ้นมาใหม่ เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วเมื่อต้องการใช้ฟอน์ชนิด SHX ก็จะสามารถเลือกได้

ในกรณีที่ทำตามขั้นตอนด้านบนแล้วไม่าสามารถเรียกใช้งานฟอนต์ SHX ได้ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ไปที่ เมนู Workspace > Configuration...

2. ที่ไดอะล็อกบ็อก Configuration ส่วนของ Category คลิกเลือก DWG/DXF










3. ที่ส่วน View/modify all configuration variables.
ให้เลือกที่ AutoCAD SHX Font Directory (หากไม่พบให้เลื่อนไปทางด้านล่างหรือคลิกที่ปุ่ม New เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่)
4. ที่ไดอะล็อกบ็อก Select Dir for AutoCAD SHX Font Directory
เลือก Drives: และโฟลเดอร์ที่เก็บฟอนต์ SHX ไว้




















5. คลิก OK เพื่อกลับไปที่ไดอะล็อกบ็อก Configuration
6. คลิก OK อีกครั้งเพื่อปิดไดอะล็อกบ็อก Configuration
7. ให้ปิดโปรแกรม MicroStation แล้วทำการเปิดขึ้นมาใหม่ เลือกใช้ฟอน์ชนิด SHX ที่ต้องการ

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2551

36 ปี ครุศาสตร์โยธาคืนบาง


ประชาสมัมพันธ์งาน
36 ปี ครุศาสตร์โยธาคืนบาง


ขอเชิญศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน เข้าร่วมงาน 36 ปี ครุศาสตร์โยธาคืนบาง ในวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2551
ณ อาคารพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ 190 ปี (โรงยิม) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียดสามารถเข้าชมได้ที่ http://www.cte.th.gs
หรือโทร 08 1340 8559 (อ. อรพินทร์), 08 4044 9360 (เอ รุ่น 33)

วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2550

เหตุผลที่ผมไล่เลขาผมออก

เหตุผลที่ผมไล่เลขาผมออก ~ (อย่างฮา)

อาทิตย์ที่แล้วเป็นวันเกิดของผม
เป็นเช้าที่ผมตื่นมาแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่

จากนั้นผมก็เลยลงไปทานอาหารเช้า
โดยหวังว่าภรรยาผมจะแฮปปี้เบิร์ดเดย์กับผม
แล้วก็มีของขวัญเล็กๆสักชิ้นให้

แต่กลับกลายเป็นว่าเธอไม่แม้แต่จะอรุณสวัสดิ์ผม
ลืมไปได้เลยเรื่อง แฮปปี้เบิร์ดเดย์ อ่ะ

ผมก็คิดเอาว่า เอาน่านี่แหละการแต่งงาน
แต่ ลูกผมไง
พวกเค้าจะจำวันนี้ได้

แต่ลูกผมก็ลงมาทานข้าวข้างล่างแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรซักคำเลย

จากนั้นผมก็ไปออฟฟิศ ไปทำงาน ด้วยความรู้สึกต่ำต้อย และ ค่อนข้างแย่

พอผมไปถึงออฟฟิศ
เจน เลขาผมก็เข้ามาทักว่า "สวัสดีค่ะเจ้านาย" แล้วก็
"สุขสันต์วันเกิดนะคะ"

ผมก็รู้สึกดีที่ว่าอย่างน้อยก็มีซักคนที่จำวันเกิดผมได้น่า

จากนั้นผมก็ทำงานไปเรื่อยๆจนถึงบ่ายโมง
แล้วเจน ก็มาเคาะประตูห้องผมแล้วถามว่า

"วันนี้ช่างเป็นวันที่อากาศดีจริงๆเลย แล้ววันนี้ก็เป็นวันเกิดเจ้านายด้วย
ทำไมเราไม่ไปกินข้าวเที่ยงกันสองต่อสอง แค่ฉันกับคุณ"

พอได้ยินอย่างนั้น ผมก็ตอบไปว่า "แน่นอนสิ นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมได้ยินตั้งแต่เช้าเลยนะ"

จากนั้นเราก็ไปทานข้าวเที่ยงกัน
แต่เราไม่ได้ไปที่เราไปกินกันตามปกติ
เจนเลือกร้านที่ค่อนข้างเงียบๆ (เป็นส่วนตัว)หน่อย

แล้วเราก็เลือกโต๊ะเฉพาะไว้
เราก็สั่งมาร์ตินี่มาดื่มกันคนละสองแก้ว

จากนั้นระหว่างทางกลับไปออฟฟิศ
เจนบอกกับผมว่า "วันนี้ช่างเป็นวันที่อากาศดีจริงๆเลย
เราคงไม่ต้องรีบกลับกันไปที่ออฟฟิศจริงๆใช่มั้ยเนี่ย"

ผมก็ตอบไปว่า "อืม คงไม่จำเป็นมั้ง ว่าแต่ เจน คุณคิดว่าไงล่ะ"

เจนเลยตอบว่า "งั้นแวะไปอาพาร์ทเม้นชั้นก่อนมั้ยล่ะ อยู่แค่ตรงหัวมุมด้านหน้านี่เอง"

พอเราไปถึงอาพาร์ทเม้นของเจน
เจนก็บอกกับผมว่า "บอสค่ะคุณคงไม่ว่าอะไรใช่มั้ยถ้าฉันจะเข้าไปในห้องนอนซักพักนึงก่อน แล้วจะกลับมาหาบอสนะคะ"

ผมก็ตอบ "โอเค" ไปแบบตะกุกตะกัก ไม่มั่นใจ

เจนก็เข้าไปในห้องของหล่อนแป๊ปนึง

จากนั้นเธอก็ออกมา พร้อมกับเค๊กวันเกิดก้อนใหญ่

พร้อมกับ ภรรยาผม ลูกๆผม เพื่อนๆของผมเป็นขโยง เพื่อนร่วมงาน แล้วทุกคนก็ร้องเพลง สุขสันต์วันเกิดให้ผม..

แล้วผมก็นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น

บนโซฟาของเจน......

......แบบเปลือยกายอยู่.......

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

เทคนิคการดื่ม Black 5 Label ชั้นเทพ (ถูกใจพวกคอเมาเค้าล่ะ)

ดื่มอย่างไรไม่ให้เสียของพร้อมสัมผัสกับรสชาติที่แอบซ่อน
รู้จักคำว่า ' เสียของ ' กันบ้างมั้ย ? คนไทยเราน่ะ ชอบทำให้เสียของอยู่เรื่อย
โดยเฉพาะนิสัย ' การดื่มแบบผสมมิกเซอร์ ' ทั้งหลาย
นั่นแหละคือการทำให้วิสกี้ชั้นดีที่บางทีไม่ควรผสมใดๆ ต้อง ' เสียของ '
วันนี้จะหยิบเอาเรื่องวิสกี้ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ มาพูดกันซะหน่อย
เพราะว่าตระกูลนี้มีหลาย ' เลเบิ้ล ' เหลือเกิน ซึ่งมีวิธีการดื่มเฉพาะซะด้วย

เริ่มจาก ' เรด เลเบิ้ล ' (Red Label) กันก่อนเลยดีกว่า
จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล น่าจะดูถูกใจคนไทยที่สุด
เพราะน้องเล็กสุดขวดนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการดื่มตลอดค่ำคืน
พูดง่ายๆ ก็คือกินได้นานๆ สนุกสนานกันทั้งคืนนั่นแหละ
แถมวิธีการกินที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องผสมกับ ' มิกเซอร์ ' ทั้งหลาย
อันเป็นวิธีการดื่มที่นิยมในหมู่คนไทยอยู่แล้วซะอีก
ตอนนี้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เรด เลเบิ้ล ก็เลยขายดีที่สุดไปโดยปริยาย
ง่ายๆ จะใส่น้ำแข็ง ผสมโคล่า ชามะนาว หรือโซดาก็ได้ทั้งนั้น
สุดแล้วแต่ว่าจะชอบรสชาติแบบไหนหลังผสมมิกเซอร์แล้วเท่านั้นเอง
แต่นักดื่มมืออาชีพมักนิยมผสมน้ำก่อนแล้วจึงผสมโซดาตามลงไป
ในอัตราส่วน2:1 หรือที่เรียกกันว่า " โซดาลอย " นั่นเอง...
ผสมเสร็จก็ เอ็นจอย ดริ๊งกิ้ง กันได้ทั้งคืน ( แต่อย่าขับรถหลังดื่มนะ )

โตขึ้นมาหน่อย กับความเคร่งขรึมแบบ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล
วิสกี้ชั้นดีจากการหมักบ่มเพื่อให้ได้รสชาติที่คลาสสิกที่สุดนานถึง 12 ปี
วิธีการดื่มที่ถูกต้องนั้นก็คลาสสิกไม่แพ้รสชาติของตัววิสกี้
ง่ายๆ เท่ๆ ดูดีด้วยสไตล์ที่เรียกกันว่า ' ออน เดอะ ร็อก ' นั่นเอง
หรือถ้าอยากย๊ากอยากจะผสมมิกเซอร์เหลือเกิน
ก็ต้องใส่น้ำแข็งเข้าไปเยอะๆ วิสกี้ ครึ่งแก้ว และโซดาอีกครึ่งแก้ว
แค่นี้แหละ ก็จะได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบล็ค เลเบิ้ล

มาถึงวิสกี้ตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ที่ไม่ค่อยจะเห็นบ่อยนักบ้างดีกว่า
เริ่มจาก จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล อายุ 18 ปีกันก่อน
แค่นำ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ โกลด์ เลเบิ้ล ไปใส่ในช่องแช่แข็งสัก 24 ชั่วโมง
ถ้าที่ในช่องแช่แข็งยังเหลือก็นำแก้วทรงสูงเปล่าๆ แช่ไว้ด้วย
พอได้เวลา ก้รินใส่แก้วที่แช่ไว้ข้างกันๆ นั่นแหละ แล้วดื่มเข้าไปเลย
ทันทีที่วิสกี้เย็นจัดปะทะกับความอุ่นในปาก กลิ่นหอมหวนนุ่มลิ้นจะอบอวล
แหม... ยิ่งถ้ามีช็อกโกแล็ตดีๆ ไว้กินเข้าคู่ล่ะก็ จะเป็นความสุขที่ลืมไม่ลงเลย เชียว

ส่วน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล ที่มีจำหน่ายแบบจำกัดประเทศนั้น
หาน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ สักก้อน ใส่ในแก้วปากกว้างเพียงแค่ก้อนเดียว
ไม่ต้องกลัวว่าน้ำแข็งก้อนนั้นจะเหงา เพราะเราจะเฝ้ามองอย่าทะนุถนอม
จากนั้นริน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กรีน เลเบิ้ล ลงไปไม่ต้องท่วมน้ำแข็ง
แกว่งแก้วเล็กน้อย ให้อุณหภูมิของวิสกี้ชะอุณหภูมิของน้ำแข็งก้อนโต
ดมกลิ่นวิสกี้ที่ระเหยขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนลิ้มรสวิสกี้ที่อุณหภูมิพอเหมาะพอดี
งานนี้จะได้ รสชาติ กลิ่น และแสงที่วิสกี้ตกกระทบกับก้อนน้ำแข็งชวนมอง
( อันนี้เคยเสียของมาครั้งหนึ่งแล้ว )

ปิดท้ายกันที่วิสกี้ชั้นสูง จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล อายุ 25 ปี
ที่หมักบ่มจากมอลต์คุณภาพสูง ตามวิธีการคลาสสิกแบบศตวรรษที่ 19
วิธีการดื่มวิสกี้ชั้นสูงนี้ก็คลาสสิกมาก เตรียมแก้วบรั่นดีสวยๆ ไว้สัก 2 ใบ
แก้วนึงรินวิสกี้รอไว้ ส่วนอีกแก้วนึงรินน้ำแร่เย็นๆ ไว้เช่นกัน
ดื่มน้ำแร่เย็นๆ เพื่อปรับอุณหภูมิในช่องปากกันก่อน
จากนั้นจิบ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ บลู เลเบิ้ล ในแก้วบรั่นดีอีกใบตาม
เมื่อน้ำแร่เย็นๆ ที่หลงเหลืออยู่ในช่องปากผสมกับวิสกี้ชั้นดีนี้
รสชาติที่แอบซ่อนจะซึมผ่านเพดานปากไปมัดใจนักดื่มเหล้าทั้งหลายไม่รู้ลืม

เสร็จสิ้นครบทั้ง 5 เลเบิ้ลของตระกูล จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กันแล้ว
ต่อจากนี้นักดื่มเหล้าชาวไทยทั้งหลาย ก็จะดื่มได้แบบไม่เสียของกันแล้ว
แต่ที่สำคัญที่สุด ดื่มแล้วจะมึนน้อยหรือมึนมาก ก็อย่าขับรถเลย
เก็บชีวิตที่มีค่าไว้สัมผัสกับสิ่งดีๆ ที่รอเราอยู่มากมายในวันข้างหน้าดีกว่า ...

ปล. จะดื่มยังไงก็เมาครับพี่น้อง แต่ทำอย่างไรดื่มแล้วจึงจะรู้ถึงรสชาติที่แท้จริง

เพื่อน!! สำคัญเสมอ

'เพื่อน!! สำคัญเสมอ'


ระหว่างเพื่อนกะ แฟน...


++ อาหาร ++
เพื่อน: ข้าว ราดแกง / ก๋วยเตี๋ยว ราคาไม่เกิน 30แดกไรแพงๆวะ เปลืองชิบ
แฟน: กินอะไรก็ได้ที่มันไม่ใช่ ข้าว - สปาเกตตี้
เฟรนฟรายซ์ ซูชิ ฯลฯ สั่ง กันไป… มื้อละร้อยขึ้น
-------------------------- --------------- -----------
++ ข้ามถนน ++
แฟน: ข้ามได้ มั้ย ระวังนะครับ! จับมือผมไว้
เพื่อน: ………อ้าว! เหี้ย… รอกูด้วย(แม่งข้าม ไปนานละ)
-------------------------- ------------------------- -
++ เวลาเดิน ++
แฟน: แนบชิดประหนึ่ง ตัวดูดแบบสุญญากาศ
เพื่อน: เฮ้ย! ไปไกลๆกูหน่อยดิ ร้อนจะตาย ห่า!!
-------------------------- ------------------------- -
++ บนรถเมล์ ++
แฟน: นั่งก่อนเลย ครับ เดี๋ยวผมยืนเอง
เพื่อน: เหยิบหน่อยดิวะ กูจะนั่งด้วย!
--- ----------------------- --------------------------
++ เงิน ++
แฟน: มีเสมอ..จ่ายไม่อั้น
เพื่อน: ไม่มีเสมอ... มึงออกไปก่อนละกัน เดี๋ยวกูให้(แร้วแม่งก็ชิ่ง)
------------- ------------- --------------------------
++ มา สาย ++
แฟน: ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้
เพื่อน: ทำห่าไรอยู่ วะ มาโคตรช้าเลย สาด ...เลี้ยงข้าวกูเลย(เพิ่งจะมาก่อนแม่ง ได้ 5 นาทีเหมือน กัน)
-------------------------- ------------------------- -
++ ช่วยทำธุระ ++
แฟน: ว่าง เสมอ - อ๋อ ว่างครับ จะให้ไปถึงที่นั่นกี่โมงดี จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
เพื่อน: ไม่เคยว่าง - ขนของย้ายห้องเหรอวะ .. เออ...ที่จริงก็ได้นะ แต่พอดีแม่ กูให้ช่วยพาไปหาญาติๆฝ่ายแม่ว่ะ
แล้วบ่ายๆ ต้องไปหาของฝ่ายพ่ออีก คงไม่ว่างแล้วละ
------------------------- - --------------------------
++ กลับบ้านดึก ++
แฟน: เดี๋ยวผมนั่งรถไปส่งดีกว่านะ กลับคนเดียว อันตราย
เพื่อน: กลับยังไงวะมึง มีค่ารถป่าว แต่กูไม่มีให้ยืมนะ เว้ย
-------------------------- ------------------------- -
++ ป่วย ++
แฟน: เป็นไรมากมั้ย? กิน ยายังคับ ห่มผ้าด้วยนะ(แม่งดูแลแม่อย่างนี้ป่าววะ)
เพื่อน: เป็นห่าไรอีกวะ สำออยอะดิมึง… ออกมาให้ไวเลย แดกเหล้ากัน
-------------------------- -
++ สอนหนังสือ ++
แฟน: ไม่เข้าใจตรงไหนบอกนะ ครับ จะอธิบายให้ใหม่
เพื่อน: กูสอนมึง 3 รอบแล้วนะ ห่านี่ แดกหมาแทนข้าวไง วะ
-------------------------- ------------------------- -
++ วาเลนไทน์ ++
แฟน: ให้คุณได้ ทุกอย่าง ยกเว้น ดาว เดือน และ ขนหน้าอก
เพื่อน: ……………(วันนี้มันไม่มีตัว ตน)
-------------------------- ------------------------- -
++ โดนทิ้ง ++
แฟน: เราไปกันไม่ได้ / อย่า มายุ่งกับเรา / ไปไหนก็ไปรำคาญ (so sad)
เพื่อน: ไม่เป็นไรเว้ย! ช่างแม่ง … มึงยังมีกูอยู่


ถ้าเห็นด้วยกรุณาส่งต่อ (ถ้า ไม่ส่งถือจะว่าไม่เห็นด้วย)

ดีเนอะที่โลกนี้มีคำว่า 'เพื่อน' ^v^